😊Teach For Thailand😊

S: สถานการณ์ (Situation)
ในสถานศึกษาแต่ละแห่งประกอบไปด้วย ผู้บริหาร ครูอาจารย์ บุคลากร และนักเรียนนักศึกษา ในส่วนของ ครูอาจารย์ บุคลากรแต่ละฝ่ายก็จะทำหน้าที่ ที่แตกต่างกัน เพื่อให้งานสำเร็จไปด้วยดี ในแต่ละสถานศึกษาก็จะมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่คล้ายคลึงกัน เราจะต้องพบกับความท้าทายที่ต้องเผชิญกับความหลากหลายของครู, นักเรียน, และรายวิชา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการสอน

T: งาน (Task)
นิเทศการสอน - จะต้องวางแผนและดำเนินการกิจกรรมนิเทศ ประเมินผลการนิเทศ และรายงานผลแก่ผู้บริหารต่อไป
รองหัวหน้าแผนกคอมพิวเตอร์ - ประชุมวางแผนการแบ่งรายวิชาให้เหมาะกับความถนัดของครูแต่ละคน ติดตามงานเช่น กิจกรรมของสถานศึกษา การจัดทำคะแนนของนักเรียน นักศึกษา ให้คำแนะนำเรื่องสื่อการสอนที่เหมาะสมกับรายวิชา - โดยแต่ละวิชา ควรใช้สื่อการสอนที่เหมาะสม เช่น สื่อออนไลน์ หรือสื่อทำมือ
ฝึกอบรมครูให้มีความรู้ด้านสื่อการสอนที่ทันสมัย - โดยจัดหาหัวข้อที่ครูสนใจ และหาวันเวลาที่เหมาะสม โดยหลังจากอบรม จะต้องส่งผลงานที่ตนเองทำ โดยมีเกียรติบัตรจากสำนักงานศึกษาธิการภาค 9 มอบให้ (ข้าพเจ้าเป็นคณะทำงานของ ONE TEACHER เขตภาคตะวันออกและกรุงเทพ อยู่ภายใต้การดูแลของ ศธ ภาค9)
ดูแลระบบการสอนโดยรวม - เช่น ระบบเช็คชื่อ ระบบติดตามนักเรียน ระบบคะแนนเก็บ
ให้คำแนะนำนักเรียนเรื่องการเรียนและผลการเรียน - ดูแล นักเรียน โอนย้ายจากสถาบันอื่น นักเรียนที่มีปัญหาด้านการเรียนและผลการเรียน
สอนคอมพิวเตอร์ - นักเรียนระดับ ปวช.-ปวส.

A: การกระทำ (Action)
นิเทศการสอน - จัดทำตารางการเข้านิเทศ โดยจัดเวลาให้ตรงกับหัวหน้าแผนกของครูแต่ละคน  สังเกตการสอนและให้คำแนะนำ
ให้คำแนะนำเรื่องสื่อการสอนให้เหมาะสมกับรายวิชา - วิเคราะห์หลักสูตร เนื้อหาของแต่ละรายวิชา ความสามารถของครู สาขาของนักเรียนนักศึกษาฝึก
อบรมครูให้มีความรู้ด้านสื่อการสอนที่ทันสมัย  - ศึกษาเทคโนโลยีและสื่อการสอนใหม่ๆ , ให้คำแนะนำครูในการเลือกสื่อการสอนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ , จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ , สร้างสื่อการสอนตัวอย่าง , สนับสนุนให้ครูสร้างสรรค์สื่อการสอนของตนเอง
ดูแลระบบการสอน  - หา Platform Online ที่เหมาะสม ออกแบบการใช้งานที่สะดวก เข้าใจง่าย และกำหนดสิทธิการใช้งานของแต่ละบุคคล
ให้คำแนะนำนักเรียนเรื่องการเรียน ผลการเรียน - ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเรียน , ชี้แนะแนวทางในการปรับปรุงผลการเรียน , สนับสนุนให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง
สอนคอมพิวเตอร์ - สอนนักเรียนโดยใช้สื่อที่ทันสมัย โดยมีการนำเสนอในระดับประเทศ ผ่านโครงการ Innovative Technology Leadership Award 
https://sway.cloud.microsoft/EwYjubkcA2A16BFE

R: ผลลัพธ์ (Results)
ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม - ครูมีความรู้ความสามารถในการเลือกใช้สื่อการสอนที่หลากหลาย , นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น , ผลการเรียนของนักเรียนดีขึ้น , ระบบการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลลัพธ์ที่เป็นนามธรรม - ครูมีความพึงพอใจในการทำงานมากขึ้น , นักเรียนมีความสุขในการเรียนรู้ , สถานศึกษาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  https://sites.google.com/view/anutrat/home

สถานการณ์ (Situation)
สอนวิชาคอมพิวเตอร์ในระดับ ปวช. - ปวส. โดยที่มีสาชาที่หลากหลาย เช่น การบัญชี การตลาด คอมพิวเตอร์ธุรกิจ คอมพิวเตอร์กราฟิก การโรงแรมและการท่องเที่ยว โดยรับผิดชอบในการสอนในรายวิชา คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพื่องานอาชีพ

ภารกิจ (Task)
สอนคอมพิวเตอร์ - จัดทำแผนการสอนโดยศึกษาจากจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชาและคำอธิบายรายวิชา จัดทำสื่อการสอนให้เหมาะสม
อาจารย์ที่ปรึกษา - แจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ จัดเก็บข้อมูลประวัติของนักเรียน ผลการเรียน เป็นต้น 

การดำเนินการ (Action)
สอนคอมพิวเตอร์ - จัดทำแผนการสอนที่สามารถปฎิบัติได้จริง เลือกกิจกรรมการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลให้เหมาะสมกับรายวิชา
อาจารย์ที่ปรึกษา – .ให้ความเป็นกันเองกับนักเรียน เข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้เกิดความเชื่อใจในการปรึกษาในทุกเรื่อง

ผลลัพธ์ (Results)
นักเรียนมีความรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนและชีวิตประจำวันได้
นักเรียนในที่ปรึกษามีความสุขในการใช้ชีวิต ทั้งในและนอกสถานศึกษา

S (Situation)
ในการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน  ทางกลุ่มครูแกนนำภายใต้โครงการ ONE TEACHER ซึ่งเป็นเครือข่ายครูของประเทศไทย รวมตัวกันเพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ประกอบการสร้างเครือข่ายครูต้นแบบแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้จัดทำโครงการ OTT LIVE โดยสอนความรู้ด้าน เทคโนโลยีทางการสอนให้กับครูทั่วประเทศผ่านช่องทาง Online https://www.facebook.com/OnetecherEastern  https://www.youtube.com/@oneteacherThailand

T (Task)
ข้าพเจ้าได้ทำหน้าที่เป็น ทีมวิทยากร สอนครูทั่วประเทศ โดยต้อง ประชุมทีมงานเพื่อเลือกหัวข้อที่น่าสนใจ ให้เหมาะสมและทันสมัย  เมื่อได้หัวข้อแล้ว ทำการเตรียมเนื้อหา ฝึกซ้อมร่วมกับทีมพิธีกร ให้การนำเสนอราบรื่นและอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด คือ 19:00 - 20:00 น.  หลังจากจบการสอนแล้ว ทางทีมงานได้ส่ง แบบประเมินและแบบทดสอบให้กับ ผู้ที่เข้ารับฟังการอบรม ในเวลา 20:00 - 21:00 น.  หลังจากเวลา 21:00 น.  ได้ทำหน้าที่ทีมลงทะเบียนและประเมินผล ได้รวบรวมข้อมูล โดยคัดกรองผู้ที่ผ่านการทดสอบ โดยกำหนดเกณฑ์คะแนน ร้อยละ 50 ขึ้นไป และคัดกรองผู้ที่มีรายชื่อซ้ำออก หลังจากได้ข้อมูลที่สมบูรณ์แล้ว ทำการส่งให้กับศูนย์เทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อออกเกียรติบัตรต่อไป

A (Action)
ในการทำงานเป็นทีม สิ่งที่สำคัญคือการเลือกงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยแบ่งเป็น 7 ฝ่าย ดังนี้ 1.ทีมลงทะเบียน ประเมินและออกเกียรติบัตร 2.ทีมพิธีกร 3.ทีมออกแบบ 4.ทีมประชาสัมพันธ์ 5.ทีมตัดต่อ 6.ทีมวิทยากร 7.ทีมอำนวยการ โดยในการวางแผนการ Live แต่ละครั้ง จะต้องมีการฝึกซ้อมร่วมกัน และหลังจากการผึกซ้อมแต่ละครั้ง จะมีการทบทวนหลังปฎิบัติงาน (After Action Review : AAR) เพื่อแจ้งว่าแต่ละฝ่ายมีข้อดีและสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมอย่างไร 

R (Results)
ทางทีมงานทุกฝ่ายมีความภาคภูมิใจ และรับพลังบวกร่วมกันในการทำงานแต่ละครั้ง รวมถึงมีความมั่นใจและประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีผู้เข้ารับการรับฟังแต่ละครั้งเป็นจำนวนหลักหมื่น โดยสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/@oneteacherThailand/streams

1.1 แรงบันดาลใจในการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" เพื่อสร้างห้องเรียนแห่งความสุข ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยได้เคยไปเข้าค่ายอาสาพัฒนา โดยไปทำกิจกรรมให้กับนักเรียนในต่างจังหวัด ได้พยเห็นสภาพความแตกต่างของความเป็นอยู่ของเมืองหลวงกับชนบท ว่าได้รับโอกาสที่แตกต่างกันมาก จึงมีความตั้งใจว่าหากมีโอกาส จะทำให้การศึกษาของไทยมีความเท่าเทียมกัน (ข้าพเจ้าเรียนในคณะศึกษาศาสตร์) และในปัจจุบันเป็นครูอาชีวะ ในวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยข้าพเจ้าได้เป็นวิทยากรจิตอาสา ผ่านโครงการ ONE TEACHER ได้รู้จักเพื่อนครูในหลายจังหวัด ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การสอน ประสบการณ์ชีวิตต่างๆ โดยสภาพความเป็นอยู่ของเพื่อนครู ทั้งที่มีความเจริญ ความพร้อมมากมาย เป็นโรงเรียนต้นแบบ แต่บางโรงเรียนที่ห่างไกล ยังต้องการความช่วยเหลือจากหน่วนยงานต่างๆ ซึ่งทำให้ข้าพเจ้า ตระหนักถึงคุณค่าของการเรียนรู้ และความสำคัญของการมีครูที่ดีที่คอยเป็นทั้งผู้ให้ความรู้และแรงบันดาลใจ การได้เห็นเด็กๆ ที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมเป็นสิ่งที่คุ้มค่า แรงบันดาลใจที่ผลักดันให้ข้าพเจ้า อยากเข้าร่วมโครงการฯ ของ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ มาจากความเชื่อที่ว่า การศึกษาคือกุญแจสำคัญในการเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้พัฒนา-ศักยภาพอย่างเต็มที่ และการสร้างห้องเรียนแห่งความสุขจะช่วยให้เด็กๆ ได้รับทั้งความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน รวมถึงการปลูกฝังให้เด็กๆ มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความมั่นใจในตัวเอง
- ข้าพเจ้าเชื่อว่าห้องเรียนแห่งความสุข คือห้องเรียนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง , สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย,เชื่อมโยงการเรียนรู้กับชีวิตจริง , ปลูกฝังคุณธรรม
- เป้าหมายสูงสุดคือ การเห็นเด็กไทยทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกัน และเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ และพร้อมที่จะสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น
- ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน เราจะสามารถสร้างห้องเรียนแห่งความสุข และพัฒนาการศึกษาของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
- ขอขอบคุณล่วงหน้า กับทางโครงการ ที่เปิดโอกาสให้ข้าพเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้

1.2 ข้าพเจ้ามีความชัดเจนในแรงบันดาลใจที่จะมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการศึกษาไทย และเชื่อมั่นในโครงการ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ที่จะสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โดยข้าพเข้ามีประสบการณ์ในการสอน มีเครือข่ายเพื่อนครู และหน่วยงานที่จะคอยเป็นผลักดัน เช่น ONE TEACHER Thailand (เครือข่ายนี้รวมตัวกันเพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ประกอบการสร้างเครือข่ายครูต้นแบบแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน)
โดยในส่วนตัวข้าพเจ้า มีประสบการณ์ในการสอน ภายให้แรงบันดาลใจ “ห้องเรียนแห่งความสุข”  https://vt.tiktok.com/ZSFu7KhEu/

2.1 เป้าหมายของข้าพเจ้าคือการเป็นแสงสว่างนำทางให้กับเด็กทุกคน สร้างห้องเรียนแห่งความสุข และเป็นพื้นที่แห่งโอกาสที่เท่าเทียมกัน หากการได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" ข้าพเจ้ามาจะมุ่งมั่นในการทำให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ นั่นคือการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย โดยวางแผนดังนี้
1. การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์อย่างเต็มที่ ข้าพเจ้าต้องการเป็นโค้ชมากกว่าครู ที่สอนเพียงเนื้อหาในตำรา ข้าพเจ้าอยากเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ เป็นผู้เปิดโลกทัศน์ให้เด็ก ๆ ได้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ข้าพเจ้าจะทำเช่นนี้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่น่าสนใจ การบูรณาการการสอน ในการทำโครงงานที่เป็นประโยชน์โดยใช้ความรู้จากวิชาต่างๆ  และการสร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ในรูปแบบที่หลากหลายและเข้าใจง่าย
2. การเป็นผู้ให้อย่างไม่มีเงื่อนไข เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ข้าพเจ้าจะทุ่มเทเวลาและความพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือเด็ก ๆ ทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะมีพื้นฐานอย่างไร หรือมาจากครอบครัวแบบไหน ข้าพเจ้าจะให้ความสำคัญกับความแตกต่างของแต่ละบุคคล และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นกันเอง เพื่อให้เด็ก ๆ กล้าที่จะแสดงออกและถามคำถาม
3. ข้าพเจ้ายังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้าพเจ้าจะศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา วิธีการสอนที่ทันสมัย และแนวคิดในการพัฒนาผู้เรียนตลอดชีวิต 

2.2 โดยข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าการศึกษาคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการเปลี่ยนแปลงชีวิตคนหนึ่ง และการได้เป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝัง “เมล็ดพันธุ์แห่งความรู้และโอกาส” ให้กับเด็ก ๆ คือสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของข้าพเจ้า โดยมีความเชื่อมั่นว่า "เด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้เรียนรู้และมีความสุข"การได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" ทำให้ข้าพเจ้าตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสรรค์บรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาของเด็กทุกคน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าการเรียนรู้ไม่ใช่เพียงแค่การถ่ายทอดความรู้ แต่ยังรวมถึงการปลูกฝังให้เด็ก ๆ มีความสุขในการเรียนรู้ มีความอยากรู้อยากเห็น และมีความมั่นใจในตนเอง โดยมีการวางเป้าหมายดังนี้
1. การสร้างห้องเรียนให้เป็นพื้นที่แห่งความสุข ข้าพเจ้าอยากให้ห้องเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง ที่เด็ก ๆ รู้สึกปลอดภัย สบายใจ และกล้าที่จะแสดงออกอย่างเป็นตัวของตัวเอง ข้าพเจ้าจะทำเช่นนี้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดกิจกรรมกลุ่มที่สนุกสนาน การสร้างสรรค์โครงงานที่น่าสนใจ และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมและเกิดการเรียนรู้แบบค้นพบ
การสร้างนักเรียนให้มีความสุขในการเรียน ไม่ใช่เพียงแค่การทำให้เด็ก ๆ มีความสนุกสนาน แต่ยังรวมถึงการช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจถึงคุณค่าของการเรียนรู้ และเห็นความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เรียนรู้กับชีวิตจริง
2. การพัฒนานักเรียนให้เป็นผู้เรียนที่เป็นอิสระ ที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และทำงานร่วมกับผู้อื่น ข้าพเจ้าจะส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะเหล่านี้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การอภิปราย การทำโครงงาน และการนำเสนอผลงาน
3. การปลูกฝังให้เด็ก ๆ มีความรักในการเรียนรู้ และมีความมั่นใจในตนเอง เพื่อให้พวกเขาสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้อย่างมั่นคง ข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าเด็ก ๆ มีความสุขในการเรียนรู้ พวกเขาก็จะสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

3.1 เป้าหมายด้านอาชีพ
1. เป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมการศึกษา
1.1 พัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักเรียนในศตวรรษที่ 21
1.2 ผลิตผลงานวิจัยเกี่ยวกับการศึกษา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการศึกษาของประเทศ
1.3 สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความรู้

2. เป็นวิทยากรและที่ปรึกษา
2.1 จัดอบรมและให้คำปรึกษาแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาในโครงการ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ เพื่อพัฒนาทักษะการสอนและการจัดการชั้นเรียน
2.2 เป็นวิทยากรในงานสัมมนาและการประชุมทางการศึกษา เพื่อเผยแพร่แนวคิดและความรู้เกี่ยวกับการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา
2.3 สร้างเครือข่ายครูและผู้ที่มีความสนใจในด้านการศึกษา เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

3. เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ
3.1 เล่าเรื่องราวและแบ่งปันประสบการณ์ในการทำงานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา
3.2 เขียนหนังสือหรือบทความเกี่ยวกับการศึกษา เพื่อเผยแพร่แนวคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคม

3.2 เป้าหมายด้านอาชีพใน 10 ปีข้างหน้า
1. เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบาย:
1.1 ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการกำหนดนโยบายและกลยุทธ์เพื่อพัฒนาการศึกษา
1.2 เป็นตัวแทนของครูและนักเรียนในการเสนอข้อเสนอแนะและความคิดเห็นต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจ

2. พัฒนาครูในโครงการทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้
2.1 สนับสนุนให้ครูได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนางานวิจัย
2.2 สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้สำหรับครู เพื่อให้ครูได้มีโอกาสแบ่งปันความรู้และประสบการณ์

3. พัฒนานักเรียนให้เป็นผู้เรียนที่เป็นอิสระ
3.1 ส่งเสริมให้โรงเรียนนำหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางไปใช้
3.2 สนับสนุนให้โรงเรียนจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน และการสร้างสรรค์

4. เป็นผู้สร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้
4.1 พัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในยุคดิจิทัล
4.2 สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงทรัพยากรการเรียนรู้ได้อย่างสะดวก

3.3 ประสบการณ์การเป็นครู 2 ปี
1. การพัฒนาตนเอง
1.1 การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ: การเป็นครูจะทำให้คุณได้เรียนรู้ทักษะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการสอน การจัดการชั้นเรียน การสื่อสาร การแก้ปัญหา หรือแม้แต่ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
1.2 การพัฒนาทัศนคติ: การทำงานเป็นครูจะช่วยให้คุณมีทัศนคติที่เป็นบวกต่อการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง คุณจะเห็นคุณค่าของการเรียนรู้ตลอดชีวิต
1.3 การเพิ่มพูนความรู้: การเป็นครูจะทำให้คุณต้องศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับใช้ในการสอน
1.4 การสร้างความมั่นใจ: การได้เห็นผลลัพธ์จากการทำงานของคุณ จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ

2. การพัฒนาสังคม
2.1 การสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน: เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน เป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ และมีความมั่นใจในตนเอง
2.2 การพัฒนาศักยภาพของนักเรียน: นักเรียนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ ด้านทักษะชีวิต หรือด้านอารมณ์
2.3 การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้: ร่วมมือกับเพื่อนครูและผู้ปกครองในการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาสพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่

3. การแชร์ประสบการณ์และการพัฒนาร่วมกัน
3.1 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครู: การได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนครู จะช่วยให้คุณได้รับไอเดียใหม่ๆ และวิธีการสอน
3.2 การสร้างเครือข่ายครู: ช่วยให้ได้รับการสนับสนุนและกำลังใจจากเพื่อนครูคนอื่นๆ

1. วิทยากร ONE TEACHER Thailand
บทบาท - ทีมวิทยากร / ลงทะเบียน
เริ่มทำ ตุลาคม 2566 - ปัจจุบัน
ระยะเวลา ไม่แน่นอน
- ทุกสัปดาห์ พัฒนาตนเองเรื่องความรู้ใหม่ๆ
- มกราคม - มีนาคม  จัดทำ OTT Live อบรม Online ให้กับครูทั่วประเทศ
- ตุลาคม อบรม Onsite ให้กับครูภาคตะวันออก
ปัจจุบันอบรมให้กับครูมากกว่า 20,000 คน (ถ้าครูแต่ละคน มีนักเรียน 100 คน เป็นอย่างน้อย เท่ากับว่า ได้ส่งต่อความรู้สู่นักเรียน มากกว่า 2,000,000 คน แล้ว)

2. ฝ่ายวิชาการ และรองหัวหน้าแผนกคอมพิวเตอร์
บทบาท
นิเทศการสอน  ให้คำแนะนำเรื่องสื่อการสอนให้เหมาะสมกับรายวิชา  ฝึกอบรมครูให้มีความรู้ด้านสื่อการสอนที่ทันสมัย  ดูแลระบบการสอน  ให้คำแนะนำนักเรียนเรื่องการเรียน ผลการเรียน สอนคอมพิวเตอร์
นิเทศการสอน - จะต้องวางแผนและดำเนินการกิจกรรมนิเทศ ประเมินผลการนิเทศ และรายงานผลแก่ผู้บริหารต่อไป
รองหัวหน้าแผนกคอมพิวเตอร์ - ประชุมวางแผนการแบ่งรายวิชาให้เหมาะกับความถนัดของครูแต่ละคน ติดตามงานเช่น กิจกรรมของสถานศึกษา การจัดทำคะแนนของนักเรียน นักศึกษา
ให้คำแนะนำเรื่องสื่อการสอนที่เหมาะสมกับรายวิชา - โดยแต่ละวิชา ควรใช้สื่อการสอนที่เหมาะสม เช่น สื่อออนไลน์ หรือสื่อทำมือ
ฝึกอบรมครูให้มีความรู้ด้านสื่อการสอนที่ทันสมัย - โดยจัดหาหัวข้อที่ครูสนใจ และหาวันเวลาที่เหมาะสม โดยหลังจากอบรม จะต้องส่งผลงานที่ตนเองทำ โดยมีเกียรติบัตรจากสำนักงานศึกษาธิการภาค 9 มอบให้ (ข้าพเจ้าเป็นคณะทำงานของ ONE TEACHER เขตภาคตะวันออกและกรุงเทพ อยู่ภายใต้การดูแลของ ศธ ภาค 9)
ดูแลระบบการสอนโดยรวม - เช่น ระบบเช็คชื่อ ระบบติดตามนักเรียน ระบบคะแนนเก็บ
ให้คำแนะนำนักเรียนเรื่องการเรียนและผลการเรียน
- เริ่มทำปี 2556 - ปัจจุบัน
- เวลาในการทำ  เป็นประจำ สม่ำเสมอทุกๆวัน

วัตถุประสงค์ความสำเร็จด้านวิชาการ (Academic Performance: AP)

นักเรียนสามารถเลือกใช้สูตรที่เหมาะสมในการหาปริมาตรของปริซึมแต่ละชนิดได้ 

วัตถุประสงค์ความสำเร็จด้านการพัฒนาทักษะที่จำเป็น (Essential Skills : ES)

นักเรียนสามารถนำความรู้เรื่องปริมาตรของปริซึมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้

วัตถุประสงค์ความสำเร็จด้านทัศนคติอุปนิสัยที่พึงประสงค์ (Character Strength : CS)
สร้างความมั่นใจในตนเอง : เมื่อสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรได้สำเร็จ จะส่งผลให้เกิดความมั่นใจในตนเอง และกล้าที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ